ตำนานแมวกวัก

ตำนานแมวกวัก มาเนะคิเนโคะ (MANEKI NEKO)

                                มาเนะคิเนโคะ หรือ มาเนะกิเนะโกะ คือชื่อของแมวกวัก ซึ่งชาวญี่ปุ่นที่มีความเชื่อกันว่า มาเนะคิเนโคะ จะนำความสุข โชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมาให้ จากความเชื่อดังกล่าวนี้เอง จึงนำมาเนะคิเนโคะมาทำเป็นตุ๊กตาแมวให้เราได้เห็นกันทั่วไปในรูปแบบต่าง ๆ  โดยนิยมเอามาตั้งไว้ในบ้านหรือในร้านค้า เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้การค้าขายดี เจริญร่ำรวย ตำนานแมวกวักค้นพบว่ามีการปรากฏขึ้นครั้งแรกในตอนปลายสมัยเอโดะ (1603-1867)  โดยค้นพบจากหลักฐานที่เป็นเอกสารที่มีการตีพิมพ์ ในหนังสือพิมพ์ปี 1870 (ยุคเมจิ)  ซึ่งระบุว่า มีการแจกแมวกวักในศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่เมืองโอซากาและมีการลงโฆษณาเกี่ยวกับแมวกวักในหนังสือพิมพ์เมื่อปี 1902 อีกด้วย

                                                มีผู้สันนิฐานว่าจริง ๆ แล้ว  ลักษณะท่าทางของแมวกวัก อาจมีที่มาจากท่าของแมวที่กำลังทำความสะอาดใบหน้าของตนเองก่อนที่ฝนจะตก เนื่องจากแมวมักจะรู้สึกกระวนกระวายใจ เมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มันจึงใช้เท้าป้ายไปตามหน้าตาของมัน จากเหตุผลนี้เอง จึงทำให้เกิดความเชื่อเรื่องแมวกวักในด้านต่าง ๆ อาทิ ประเทศจีนมีความเชื่อว่าเมื่อแมวล้างหน้า ฝนจะตก ด้านประเทศญี่ปุ่น ถ้าใครเห็นแมวทำความสะอาดหน้า หมายความว่าจะมีแขกมาหาจึงทำให้มีความเชื่อต่อไปอีกว่า ถ้าหากเห็นแมวทำความสะอาดหน้าของตนเองเมื่อไหร่ จะมีลูกค้าเข้าร้าน และนี่จึงอาจเป็นต้นกำเนิดของ “มาเนะคิเนโคะ” ก็เป็นได้

                                                นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเล่าขานของตำนานที่น่าสนใจเกิดขึ้นของแมวกวักอยู่ ๓ เรื่อง คือ

Ø      The Temple Cat  :   ท่าน Lord เศรษฐีผู้มั่งคั่งคนหนึ่งได้หลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ กับวัด Gotoku-ji  ซึ่งวัดนี้มีสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก และในขณะที่หลบอยู่นั้น ก็ได้บังเอิญเห็นแมวตัวหนึ่งของพระกำลังกวักเรียกเชื้อเชิญให้เข้ามาในวัด ในขณะที่ท่าน Load เข้ามาในวัด ทันใดนั้นฟ้าก็ผ่าลงมาที่ต้นไม้ ท่าน Load  เชื่อว่าการรอดตายในครั้งนี้ก็เพราะเห็นแมวกวักตัวนั้นกวักมือเรียกเขา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เขาสำนึกในบุญคุณ จึงช่วยบูรณะวัดให้กลับมางดงามดังเดิม  จนกระทั่งเมื่อแมวตัวนั้นตาย เขาก็เลยได้สร้างมาเนะคิเนโคะขึ้นมาด้วยความเคารพ

Ø      The Courtesan  :  โสเภณีชั้นสูงนางหนึ่งชื่อ Usugumo อาศัยอยู่ใน Yoshiwara เธอได้เก็บแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยงด้วยความรักและดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี มีอยู่คืนหนึ่ง แมวตัวนั้นได้ดึงชุดกิโมโนของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร นานวันเข้าแมวตัวนั้นก็ยังทำพฤติกรรมเหมือนเดิมจนเจ้าของสำนักเห็น ก็เชื่อว่าแมวตัวนั้นเป็นแม่มด จึงได้ตัดหัวทิ้ง จนหัวแมวกระเด็นไปบนเพดาน และฆ่างูที่ซ่อนอยู่บนเพดานตาย Usugumo เศร้าโศกเสียใจกับการตายของแมวเป็นอย่างมาก จนมีลูกค้าท่านหนึ่งเห็นใจ จึงให้ของขวัญเธอเป็นแมวที่เขาแกะสลักขึ้นมา ซึ่งก็กลายมาเป็นมาเนะคิเนโคะในปัจจุบัน

Ø      The Old Woman  :  หญิงชราคนหนึ่ง เธอมีฐานะยากจนมาก แต่ก็พยายามเจียดอาหารเท่าที่มีแบ่งเลี้ยง

แมวที่เธอรัก แต่วันหนึ่งเธอไม่สามารถเลี้ยงแมวตัวนั้นต่อไปได้อีก เธอจึงนำมันไปปล่อย คืนนั้นเธอนอนร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ แล้วจู่ ๆ คืนวันเดียวกัน แมวตัวนั้นก็มาเข้าฝันบอกให้หญิงแก่ปั้นรูปแมวด้วยดินเหนียว เมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็ปั้นแมวด้วยดินเหนียวตามความฝัน ในวันนั้นก็มีแขกข้ามาหาและขอซื้อแมวตัวนั้นไป ยิ่งหญิงชราปั้นแมวมากเท่าใด ก็มีคนมาขอซื้อมากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดเธอก็มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงแมวที่เธอรักตลอดไป

                สำหรับตุ๊กตาแมวกวักมาเนะคิเนโคะนั้นมีอยู่ด้วยกัน ๒ แบบ คือ แบบยกขาข้างซ้ายและยกขาข้างขวา ตามความเชื่อที่มีอยู่ว่า ถ้ายกขาข้างซ้ายจะเรียกลูกค้า ถ้ายกขาข้างขวาจะเรียกเงินให้ไหลมาเทมาและนำโชคลาภมาให้ นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการกวักมือของแมว ซึ่งบางตำนานก็เชื่อกันว่ายิ่งมือข้างที่แมวกวักยาวมากเท่าไร ก็จะนำโชคลาภมาให้มากเท่านั้น

สีของแมวกวักมีความสำคัญไม่น้อย  ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความแตกต่างกันไป ดังนี้

1.       Tricolor  ลักษณะลำตัวของแมวเป็นสีขาว และมีจุดดำอยู่บนพื้นสีส้ม ซึ่งเป็นสีแห่งโชคลาภ และเป็นที่นิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นในขณะนี้ ความเชื่อและความนิยมที่เกิดขึ้นกับสีแบบนี้มีความเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์แมวที่เรียกว่า Japanese Bobtall Cat (แมวหางกุดซึ่งเป็นสายพันธ์โบราณของญี่ปุ่น) ค่อนข้างหายาก

2.       สีขาว  เป็นสีที่หมายถึงความบริสุทธิ์และได้รับความนิยมรองลงมาจากแมวกวักสามสี

3.       สีดำ  เป็นสีที่มีความหมายเกี่ยวกับสุขภาพดีและขับไล่สิ่งชั่วร้าย เป็นที่นิยมสำหรับผู้หญิง เนื่องจากมีความเชื่อว่าจะสามารถขับไล่ผู้ที่ไม่ประสงค์ดี หรือเหล่ามิจฉาชีพที่สะกดรอยตามมา

4.       สีแดง  เป็นสีแห่งความคุ้มครอง ซึ่งสามารถป้องกันปีศาจร้าย และความเจ็บป่วย

5.       สีทอง  เป็นสีที่แสดงถึงความมั่งคั่งร่ำรวย

6.       สีชมพู  สำหรับสีนี้เป็นสีที่ไม่ได้มีมาแต่ดั่งเดิม แต่ค่อนข้างเป็นที่นิยมในปัจจุบัน และเป็นสีที่ให้โชคเกี่ยวกับความรัก

7.       สีม่วง  เป็นสีที่ให้พลังแห่งศิลปะ

8.       สีเขียว  เป็นสีที่จะนำพาความสำเร็จในเรื่องของการศึกษา


ที่มา   :   Your Pet